สถานที่ยอดอิตญี่ปุ่น โอซาก้า เมืองน่าเที่ยว 2017-06-07 12:02:26 | อ่าน 7,919 ครั้ง
สถานที่ยอดอิตญี่ปุ่น โอซาก้า เมืองน่าเที่ยว
เมือง “โอซาก้า” (Osaka) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู (Honshu) โดยเมืองโอซาก้าเคยเป็นศูนย์กลางการติดต่อทางทะเลที่สำคัญที่สุดของประเทศในช่วงสมัยของ โตโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi ค.ศ.1537-1598) นักรบระดับไดเมียวผู้พยายามรวบรวมประเทศเป็นครั้งแรก เมื่อเขาได้เถลิงอำนาจขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก็ได้เลือกเอาทำเลที่ตั้งของวัดอิชิยะมะฮงกันจิ (Ishiyama Honganji) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัดในศาสนาพุทธนิกายสุขาวดีมาสร้างเป็นจวนที่พักของตน ต่อมาในปี ค.ศ.1583 ฮิเดโยชิก็ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้อีกครั้งให้กลายมาเป็น“ปราสาทโอซาก้า” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเราที่เต็มไปด้วยความวิจิตรสวยงามของช่างฝีมือเยี่ยม
ต่อมาเมื่อฮิเดโยชิถึงแก่อสัญกรรม โตโยโทมิ ฮิเดโยริ ผู้เป็นบุตรได้ครอบครอบปราสาท แต่ไม่นานก็เกิดการเปลี่ยนขั่วอำนาจมาเป็นยุคของ โตกุกาว่า อิเอะยาสึ (Tokugawa Ieyasu) ในสมัยนี้เหล่าซามุไรไร้นายที่พ่ายแพ้สงครามได้ลุกฮือเผาทำลายปราสาท จนในสมัย โตกุกาว่า ฮิเดทาดะ ก็ได้มีการสร้างปราสาทขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1620 แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1665 ก็ได้เกิดฟ้าผ่าที่หอพิทักษ์ฟ้า จนไฟลุกไหม้ตัวปราสาททั้งหมด
กระทั่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจอีกครั้ง โดยคืนอำนาจให้กับจักรพรรดิในปี ค.ศ.1868 ปราสาทก็ได้ตกไปเป็นสมบัติของรัฐบาลเมจิ แต่ในช่วงนั้นเกิดการจราจลหลายต่อหลายครั้งในที่สุดปราสาทโอซาก้าก็ได้ถูกไฟไหม้อีกครั้งจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง รัฐบาลยุคก่อนส่งครามโลกก็ได้เข้าไปดูแลฟื้นฟูปราสาท แต่ในช่วงสงครามโลกปราสาทก็ได้ถูกระเบิดทิ้งบอมบ์เสียหาย หลังจากนั้นก็ได้โดนพายุไต้ฝุ่นถล่มอีกในปี ค.ศ.1950
ลูกโลกสัญลักษณ์ของ ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ
จากนั้นก็ได้มีการฟื้นฟูบูรณะปราสาทเรื่อยมา จนในปี ค.ศ.1983 ซึ่งเป็นปีฉลองปราสาทโอซาก้าครบ 400 ปี จึงได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมปราสาท ปัจจุบันปราสาทโอซาก้าหรือหอพิทักษ์ฟ้าได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตต่างๆของปราสาทโอซาก้า และตระกูลโตโยโทมิ พร้อมทั้งจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เครื่องแต่งกายโบราณให้กับผู้เข้าชม และยังถือเป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยมที่สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้เต็มๆตาเลยทีเดียว ส่วนรอบๆปราสาทก็จะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่สวยงามสีสันผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
ชมหนึ่งเอกลักษณ์ของโอซาก้าไปแล้ว สถานที่ต่อไปฉันจะพาไปเฮฮา ฮาเฮ กับ “ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน” (Universal Studios Japan) พบความสนุกสนานกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่รอท้าทายประสบการณ์และความเสียวสุดเหวี่ยง เมื่อไปถึงก็แน่นอนเลยว่าทุกคนจะต้องไปรวมตัวถ่ายรูปกันที่สัญลักษณ์ของยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ ซึ่งก็คือ ลูกโลกที่โอบล้อมด้วยคำว่าUniversal Studios
รถไฟเหาะเครื่องเล่นใหม่ที่ผู้คนนิยมเล่นเป็นอย่างมาก
ภาพจากgetabout.hanatour.com
ถ่ายรูปกันจุใจแล้วก็ตะลุยผ่านประตู่สู่อีกโลกที่เหนือจินตนาการ แต่ก่อนจะมุ่งตรงไปสู่เครื่องเล่น ฉันได้เจอะเจอกับตัวการ์ตูนแอนนิเมชั่นสุดน่ารักมากมาย ซึ่งตัวการ์ตูนแต่ละตัวถูกห้อมล้อมไปด้วยเด็กๆทั้งเด็กเล็กเด็กโต หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ผู้ปกครองหรือผู้สูงอายุที่จิตใจยังวัยละอ่อนก็ต่อคิวถ่ายรูปกันอย่างหนาตา ฉันเองก็ไม่รีรอเข้าไปร่วมต่อคิวคว้าเจ้าตัวการ์ตูนน่ารักๆมาแชะหน้ากล้องกับเขาด้วย
จากนั้นฉันก็มุ่งตรงสู่เครื่องเล่นแรกก็คือ “The Amazing Adventures of Spider Man – The Ride” ซึ่งฉันต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเราไม่จำเป็นต้องเล่นตามลำดับเครื่องเล่นที่เราเจอ เพราะบางครั้งอาจจะเจอกับรอบที่มีคนเยอะต้องต่อคิวรอเป็นเวลานานจะทำให้เสียเวลาในการสนุกกับเครื่องเล่นอื่นๆ ในตอนแรกฉันก็ชะล่าใจไปเข้าแถวรอเล่นเครื่องเล่น Spider Man ที่มีแถวยาวเหยียดขดไปมาเกือบร้อยรอบเห็นจะได้ 2ชั่วโมงกว่าผ่านไปถึงจะได้เล่น
นั่งเรือผจญภัยสำรวจโลกดึกดำบรรพ์แสนเร้าใจ
ภาพจากwww.dianliwenmi.com
แต่ต้องขอบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอย ก่อนที่ฉันจะได้ร่วมตะลุยไปกับการต่อสู่อันระทึกใจกับไอ้แมงมุมกับเหล่าร้าย ก็ต้องใส่แว่น 3-D เพื่อผจญภัยทะยานไปกับเครื่องเล่นเทคนิคพิเศษที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังอยุ่ในสถานการณ์นั้นๆจริงๆ จนต้องคอยหลบหมอบและเรียกเสียงกรี๊ดกันตลอดเลยทีเดียว
เครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดต่อไปก็คือ “Jurassic Park - The Ride” ก่อนเล่นฉันขอแนะนำให้ใส่เสื้อกันฝนไว้ด้วย เพราะเครื่องเล่นนี้รับรองว่าเปียกแน่ๆ โดยการผจญภัยจะเริ่มจากการนั่งเรือล่องไปในโลกดึกดำบรรพ์เผชิญกับเจ้าทีเรกซ์ที่ดุร้ายที่ได้หลุดออกมาจากกรง ทางเดียวที่จะรอดพ้นก็คือต้องต้องกระโจนลงสู่ความมืดมิดที่มีระยะทางถึง26 เมตร เครื่องเล่นนี้จะพานักสำรวจโลกอดีตดิ่งจากความสูงเทียบเท่ากับตึก 5 ชั้น ให้ความรู้สึกเสียวตั้งแต่ขนหัวไปจนถึงตาตุ่มเลยก็ว่าได้
ภาพจากwww.clubsnap.com
ต่อไปที่ควรจะเล่นก็คือ “Backdraft” เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหมือนจริงอีกครั้งเมื่อเสียงกริ่งเตือนภัยระดับ 5 ดังขึ้นในสถานที่ที่มีไฟลุกไหม้โชติช่วง ความร้อนระอุของเปลวเพลิงที่สามารถเผาทุกอย่างให้มอดเป็นจุล ตามมาด้วยความระทึกใจกับเครื่องเล่น “Back to the Future”ที่ฉันและนักสำรวจอดีตจะได้นั่งยานจรวดจากโลกอนาคตข้ามกาลเวลากลับสู่อดีตอันตื่นตาตื่นใจ
ความสนุกสุดเสียวยังไม่จบแค่นี้ เครื่องเล่นต่อไปเป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดที่จะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังโบยบินอยู่บนฟ้าฟ้า ได้แก่ “Hollywood Dream – The Ride” ด้วยระบบการลื่นไหลแบบตอเนื่องนุ่มนวลไม่สะดุดของJet Coaster ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่เหนือเมืองแห่งโลกมายา Hollywood พร้อมเสียงเพลงเร้าใจที่เปิดคลอตลอดเส้นทาง
ภาพจากwww.wikiwand.com,coaster.fc2web.com
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอันน่าระทึกใจอีกมากมาย เช่น WaterWorld ที่เต็มไปด้วยแอ็กชั่นสุดมันจากภาพยนตร์เรื่อง WaterWorld , E.T. Adventure ที่จะได้กระโจนขึ้นจักรยานและปั่นสู่ฟากฟ้า เพื่อพาE.T.กลับไปพิทักษ์ดาวบ้านเกิด หรือหากเครื่องเล่นบางอย่างอาจจะส่งผลกระทบต่อหัวใจให้ฉีดแรงและเต้นรัว ก็เปลี่ยนมาร่วมสนุกกับธีมเบาๆ เช่น Universal Monsters Live Rock And Roll Show ที่จะได้ร่วมร้องเพลงไปกับเหล่าร็อกแอนด์โรลที่แต่งตัวเป็นปีศาจต่างๆ, ละครเพลง Wicked และช้อปปิ้งกับร้านค้าการ์ตูนมากมาย เป็นต้น
ถ้ำทะเล-ประตูน้ำ โซนต้อนรับสู่การท่องเที่ยวใต้น้ำ
ภาพจากjapanforkodomo.weebly.com
สนุกสนานกับเรื่องราวมหัศจรรย์ในโลกสีสันแห่งจินตนาการไปแล้ว สถานที่ต่อไปที่ฉันจะพาไปฉีกอารมณ์ก็คือ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าไคยูคัง” (Osaka Aquarium Kaiyukan) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว ด้วยความจุน้ำทั้งหมด 11,000 ตัน จัดแสดงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของพื้นที่ 10 แห่งที่อยู่ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิกด้วยแทงคืน้ำขนาดใหญ่ จำนวน14 แทงค์
แต่ก่อนที่ฉันจะได้จุใจกับบรรดาสัตว์น้ำอันหลากหลาย ฉันเดินมุ่งตรงไปยังบันไดเลือนอันสูงชันที่จะนำพวกเราขึ้นไปยังชั้นที่ 8 ก่อนแล้วจึงค่อยเดินวนไล่ลงไปยังชั้นล่าง ก่อนจะถึงบันไดเลือนฉันเดินลอดผ่านอุโมงน้ำขนาดใหญ่ทางเดินยาว 11 เมตร โซนนี้เรียกว่า “ถ้ำทะเล ประตูน้ำ” เปิดการต้อนรับและเริ่มเปิดฉากการเดินทางในโลกของสัตว์น้ำนานาชนิด จากนั้นบันไดเลือนจะพาพวกเราไปสู่ชั้นที่ 8 ที่เราจะได้พบเจอกับ “ป่าญี่ปุ่น”ที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาให้ชีวิตแก่เหล่าพันธ์ไม้และสัตว์ต่างๆ เช่น นาก ซาลาแมนเดอร์ ปลาเทราท์ เป้นต้น
โซนถัดมาเป็นโซน “ทิวเกาะอะลิวเทียน” ที่จัดแสดงเป็นภูเขาทอดตัวไปตามแนวชายฝั่งและวิถีชีวิตของนากทะเล ต่อไปคือ “อ่าวมอนเทอร์เรย์” อยู่บริเวณชายฝั่งของแคลิฟอร์เนียมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่น สิงโตทะเลและแมวน้ำ ที่เราจะได้เห็นการแหวกว่ายน้ำกินปลากระเทาะหอยด้วยท่าทางที่น่ารักน่าชัง จนมาถึง “อ่าวปานามา” ซึ่งจะจัดแสดงป่าเขตร้อน วิถีชีวิตของตัวสลอท เต่าตีนแดง ปลาเม่น เป็นต้น
มาถึง “ดงดิบเอควาดอร์” เราจะได้ชมป่าฝนเขตร้อนบริเวณแม่น้ำอะเมซอนทางอเมริกาใต้ ถัดไปเป็นโซน “ขั้วโลกใต้” ที่พื้นที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและวิถีการดำเนินชีวติของเจ้าเพนกวินราชา เพนกวินเจนตู และเพนกวินร็อคฮอปเปอร์ ใกล้กันคือโซน “ทะเลทัสมัน” ที่จัดแสดงโลมาขาวแปซิฟิก โซน “แกรทแบริเออร์รีฟ” จัดแสดงแนวโขดหินปะการังที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในโลก 2,000 เมตร
ฉลามวาฬตัวมหึมาที่แทงก์ มหาสมุทรแปซิฟิก
ภาพจากwww.areejalalam.net
แทงก์ต่อมาคือ “มหาสมุทรแปซิฟิก” ที่จุน้ำถึง 5,400 ตัน ลึกถึง 9 เมตร ยาว 34 เมตร ภายในเราจะได้เห็นสัตว์น้ำมากมายเช่น ฉลามวาฬ ปลากระเบนมอนท่า ปลาทูน่า เป็นต้น ต่อไปเป็น “ทะเลในเซโตะ” ที่เราสามารถชมปลาต่างๆที่เป็นเหมือนตัวแทนของญี่ปุ่นได้ที่นี่ เช่น ปลาบรีม กุ้งลอบสเตอร์ และหมึกยักษ์
เดินต่อไปฉันได้เจอ “ป่าเคลป์” ที่ปกคลุมไปด้วยสาหร่าย และปลาการิบาลดี ปลาโอพาเล่ และปลาพระอาทิตย์ ส่วน “ชายหาดชิลี” ที่มีแพลงตอนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะได้เห็นฝูงปลาแอนโชวี่ได้ที่แทงก์นี้ ต่อไปเป็น “ช่องแคบคุ๊ก” ที่นี่เราจะได้เห็นปลาเมาเมาสีชมพู ปลาเมาเมาสีน้ำเงิน เต่าทะเล ที่จะเห็นได้เฉพาะที่ช่องแคบคุ๊กเท่านั้น
ปูยักษ์หรือปูแมงมุมที่โซนช่องทะเลญี่ปุ่น
ภาพจากtheethogram.com
โซนถัดไปฉันได้ตื่นตาตื่นใจไปกับปูยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ ”ช่องทะเลญี่ปุ่น” เห็นแล้วก็ดูน่ากลัวไม่ใช่เล่นเพราะแขนขาของเจ้าปูยาวใหญ่หากตกลงไปฉันว่าฉันไม่รอดเป็นแน่ ดูเจ้าปูแล้วก็ไปถึงโซนสุดท้าย “แมงกะพรุนลอย” ที่จัดแสดงแมลกะพรุน 12 ชนิด จำนวนกว่า 600 ตัว ทั้งแมงกระพรุนพระจันทร์ แมงกระพรุนสีน้ำตาล และแมงกระพรุนพ่นน้ำ เป็นต้น
Shinsaibashi-Suji Shopping Street
ภาพจากawol.junkee.com
กว่าจะเดินชมความหลากหลายภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ครบก็ใช้เวลานานอยู่ทีเดียว แต่ความสนุกยังไม่จบเพราะในตอนกลางคืนฉันยังวางแผนไว้ว่าจะไปเดินช้อปปิ้งอัพเดทแฟชั่นและสำรวจชีวิตชาวญี่ปุ่นให้เพลิดเพลินใน “ย่านชินไซบาชิ”(Shinsaibashi-Suji Shopping Street) ที่มีทั้งร้านขายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำองค์มากมายตลอดสองข้างทาง และยังมีร้านอาหารอร่อยๆนับไม่ถ้วนทั้งร้านเครปชื่อดังที่คนต่อคิวกันยาวเหยียด และที่ห้ามพลาดก็คือ ทาโกะยากิ เพราะที่โอซาก้าเขาเป็นเมืองต้นกำเนิดทาโกะยากิ ใครมาแล้วไม่ได้ลิ้มลองล่ะก็ถือว่าพลาดอย่างแรง!
ที่มา : www.manager.co.th
|