สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | สนามบินชิโตเสะ - ฟูราโน่ - นิงเกิ้ล เทอเรส - บิเอะ - บ่อน้ำสีฟ้า - อาซาฮิกาว่า อิออน มอลล์ |
วันที่ 3 | โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ - โรงงาน ช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ - ดิวตี้ฟรี - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ |
วันที่ 4 | อุทยานโมอาย - พระใหญ่อะตามะ ไดบุตสึ - ตลาดปลาซัปโปโรโจไง - ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด - หอนาฬิกาซัปโปโร - สวนโอโดริ - มิตซุย เอาท์เล็ต |
วันที่ 5 | สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
วันเดินทาง |
ราคาทัวร์/ท่าน พักห้องละ 2-3 ท่าน |
ราคาทัวร์เด็ก/ท่าน (อายุไม่เกิน 12 ปี) |
ราคาทัวร์ไม่รวม ตั๋วเครื่องบิน |
ราคา ห้องพักเดี่ยว |
22 – 26 พฤศจิกายน 2567 | 45,990 | 42,990 | 35,990 | 10,000 |
26 – 30 พฤศจิกายน 2567 | 45,990 | 42,990 | 35,990 | 10,000 |
อัตราค่าบริการสำหรับ เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (Infant) ท่านละ 15,000 บาท ราคาทัวร์ไม่รวมค่าทิปไกด์ และคนขับรถ ท่านละ 1,500 บาท |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น
20.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
Day2 : สนามบินชิโตเสะ - ฟูราโน่ - นิงเกิ้ล เทอเรส - บิเอะ - บ่อน้ำสีฟ้า - อาซาฮิกาว่า - อิออน มอลล์ |
08.30 เดินทางถึง สนามบินชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ฟูราโน่ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที)
นำทุกท่านอิสระเยี่ยมชม นิงเกิ้ล เทอเรส เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน (บ้าน 15 หลัง) ที่จำหน่ายสินค้าแบบออริจินัลของท้องถิ่น และมีร้านกาแฟ Chu Chu no Ie
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านไปยัง บิเอะ จากนั้นนำท่านชม บ่อน้ำสีฟ้า หรือ BLUE POND บ่อน้ำสีฟ้าที่เกิดจากความบังเอิญที่เกิดจากการสร้างเขื่อนเพื่อไม่ให้โคลนภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ Tokachi เมื่อปี ค.ศ.1988 ไหลเข้าสู่เมือง โดยที่ก้นบ่อน้ำแห่งนี้จะมีแร่ธาตุที่เกิดจากโคลนภูเขาไฟทำให้มีสีฟ้าหรือเขียวมรกตสดใส และมีกิ่งไม้ที่โผล่ออกมาจากพื้นผิวน้ำ ทำให้มีความสวยแปลกตาไปอีกแบบ อีกทั้งสีของบ่อน้ำแห่งนี้จะมีความสวยงามแตกต่างไปตามแต่ละฤดูกาลอีกด้วย
หลังจากนั้นเดินทางไปยัง อาซาฮิกาว่า นำท่านช้อปปิ้ง ณ อิออน มอลล์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น มีสินค้ามากมายหลากหลายชนิดให้ท่านได้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนเครื่องสำอาง ของใช้เด็ก ของเล่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ยาสามัญประจำบ้านหรือแม้กระทั่งผลไม้สดๆจากไร่ของญี่ปุ่นก็มีจำหน่ายที่นี่ด้วยเช่นกัน พิเศษสุดกับร้าน 100 เยน ที่ทุกอย่างในร้านราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น ซึ่งเป็นร้านยอดฮิตของคนญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
Day3 : โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ - โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ - ดิวตี้ฟรี - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอตารุ ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก รวมถึงการตกแต่งของบ้านเรือนนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากในอดีต เมืองโอตารุได้รับอิทธิพลมาจากการทำการค้าระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรป อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงามของเมืองเลียบคลองโอตารุอันสวยงามน่าประทับใจ คลองโอตารุ เป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง
จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย
นอกจากนี้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมี “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา
อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกชมสินค้ามากมายกับ ถนนซาไกมาชิ โดยด้านขวามือก็ต้องสะดุดตา สะดุดใจ ไปกับความน่ารักของเจ้าแมวน้อยคิตตี้ ที่ท้าทายรอให้ทุกๆ ท่านเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อเข้าไปในร้านทุกท่านสามารถเลือกแก้วเป็นลวดลายตามใจชอบแต่ละท่านได้เลย ซึ่งข้างหลังแก้วจะมีการสกรีนคำว่า Otaru ติดไว้ด้วย ซึ่งแก้วก็จะมีมากมายหลากหลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อซื้อแก้วพร้อมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วสามารถเติมเครื่องดื่มฟรีได้อีกรอบด้วย สามารถเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยที่บริเวณชั้นสอง หรือถ้าใครไม่อยากนั่งบริเวณชั้นหนึ่งซึ่งเป็นโซนขายของที่ระลึก หรือจะสนุกสนานไปกับการหมุนตู้กาชาปองเสี่ยงทาย
มาฮอกไกโด ทั้งทีต้องไม่พลาด LETAO กันนะจ๊ะ เป็นคาเฟ่ให้นั่งทานและสามารถสั่งกลับได้ ซึ่งบางวัน
อาจจะต้องรอคิวกันสักนิดนึง สิ่งต้องห้ามก็คือ ห้ามพลาดที่จะลิ้มรส และห้ามพลาดที่จะหิ้วกลับมาเป็นของ
ฝากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งโดยเด็ดขาด LETAO ที่ควรค่าแก่การทานคือชีสเค้กนั่นเอง สัมผัสลิ้นที่นุ่มละมุน
กลิ่นหอมหวาน ให้รสชาติหวานพอดี ลิ้มรสพร้อมกับจิบชาและชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไร
จะฟินไปยิ่งกว่านี้แล้วววว
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ เป็นธีมพาร์คที่มาในรูปแบบของโรงงานช็อกโกแลตสุดน่ารักของ บริษัท Ishiya เป็นบริษัทช็อกโกแลตของท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะ คุกกี้ Shiroi Koibito คุกกี้เนยสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต ของฝากขึ้นชื่อของฮอกไกโดที่ใครก็ต้องซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุโรปขนาดใหญ่ และสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษด้านนอก เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาลของเมืองซัปโปโร
ภายในอาคารจะเป็น พิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลต สถานที่สาธิตกระบวนการผลิตขนมต่างๆ ของบริษัท Ishiya โดยจะเปิดเป็นรอบทัวร์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมการบรรยายตามจุดต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ ที่มาของขนมชื่อดัง ตลอดไปจนถึงการจัดแสดงของประดับสุดคลาสสิกต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช็อปให้ลองทำช็อกโกแลตและคุกกี้ด้วยตนเองด้วย (ในกรณีต้องการเข้าชมการผลิตขนมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประมาณท่านละ 800 เยน ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
ในช่วงฤดูหนาวสามารถชมงานเทศกาลแสดงไฟ ที่เนรมิตสวนด้านหน้าให้กลายเป็นดินแดนขนมสุดหรรษา จัดตกแต่งสวนด้วยรูปปั้นขนมที่มีหิมะปกคลุม ต้นคริสต์มาส รวมถึงประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสีมากมาย และในฤดูร้อนจะสามารถชมสวนกุหลาบสไตล์อังกฤษ มากกว่า 200 ชนิด และสำหรับฤดูใบไม้ร่วงสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อีกด้วย
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอาง อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่สามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย
นำท่านช้อปปิ้งที่ ทานุกิโคจิ เป็นแหล่งช้อปปิ้งบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก SAPPORO AREA HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day4 : อุทยานโมอาย - พระใหญ่อะตามะ ไดบุตสึ - ตลาดปลาซัปโปโรโจไง - ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด - หอนาฬิกาซัปโปโร - สวนโอโดริ - มิตซุย เอาท์เล็ต |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม อุทยานโมอาย (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ พระพุทธรูปเป็นแนวคิดโครงสร้างจากการเรียงลำดับของจิตวิญญาณ องค์พระมีชื่อว่า พระใหญ่อะตามะ ไดบุตสึ หรือ Atama Daibutsu เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา อุทยานโมอาย มีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม (ชาวญี่ปุ่นไม่มีการฝังศพ ใช้การเผา และจะซื้อที่ดินไว้เก็บ"อัฐิ"เก็บแบบทั้งตระกูลรวมไว้) โมอายแห่งญี่ปุ่น เป็นชื่อที่ผู้คนเรียกขาน เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดปลาซัปโปโรโจไง ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง บรรยากาศตามร้านต่างๆ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับตลาดปลาทางโตเกียวหรือโอซาก้า
ของขึ้นชื่อเมื่อมาเยือนตลาดปลาแห่งนี้และพลาดไม่ได้เลย คือ ปูยักษ์ ซึ่งปูยักษ์ที่นี่จะใหญ่มาก หากได้มาเยือนฮอกไกโดแล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาด มาต่อสถานที่สุดฮิตอีกหนึ่งจุดคือ ร้านขายของสดแล้วก็ยังมีร้านขายอาหารแห้งแปรรูป ของกึ่งสำเร็จรูป เป็นการแปรรูปของสดจากทะเลหรือการนำมาทำเป็นของอบแห้งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และของนิยมซื้อฝากกันยอดฮิตคือ “มิโสะปู” สามารถนำไปทำซุปมิโสะได้เลยแถมอร่อยมากๆด้วย
แค่นี้ถือว่ายังไม่พอมาต่อกันอีกหนึ่งร้านที่ถือว่ารวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน อาทิ ของทะเลสด ของแห้ง ของสำเร็จรูป รวมไปถึงร้านอาหาร (สามารถดูราคาและเมนูต่างๆหน้าร้านจะมีป้ายเมนูติดอยู่) ซึ่งส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวจะไม่พลาดสั่งได้แก่
- หอยเชลล์สดย่าง เหยาะโชยุลงไปเล็กน้อย ได้ทั้งกลิ่นหอมบวกกับอากาศเย็นๆ ฟินสุดๆ และฟินไปอีกขั้นขณะทานได้ซดน้ำซุปหอยร้อนๆ ยิ่งเพิ่มระดับความฟินเข้าไปอีก
- เซตข้าวหน้าหอยเม่น ที่เสิร์ฟพร้อมกับ ซุปมิโสะปู ก็อร่อยไม่แพ้กันด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบ หรือหากใครกลัวเลี่ยนสามารถเหยาะโชยุลงไปก็อร่อยเหมือนกันเพิ่มเติมสามารถตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว
- ซูชิโกะเซ็น ในชุดมีไคเซ็นด้งขนาดมินิ 3 ถ้วย (หน้าหอยเชลล์ หน้าไข่ปลาแซลมอน และหน้าหอยเม่น) กับซูชิ 3 คำ และมีน้ำซุปปู ถือว่าเป็นเซตสุดคุ้มเหมาะสำหรับคนที่อยากทานหลายอย่างพร้อมกัน – (ร้านซูชิเครัน)
- ไคเซ็น คิตะมาเอะ ฟุนะโมริด้ง เมนูนี้เอาใจคนที่ชอบทานซาชิมิ แต่เป็นซาชิมิที่เราสามารถทำไคเซ็นด้งด้วยตัวเองได้อีกด้วย "ฟุนะโมริ" ที่อยู่ในชื่อเมนูหมายถึงการจัดวางอาหารทะเลบนภาชนะรุปทรงเหมือนเรือ ว่ากันว่าเป็นวิธีจัดอาหารแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคเอโดะ – (โอกุมะ โชเท็น)
จากนั้นนำท่านชม ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกาที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปี แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปีพ.ศ. 2512 ** ในกรณีที่มีการปิดซ่อมแซม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการตัดโปรแกรม **
นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่และเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
นำท่านผ่านชม สวนโอโดริ สวนสวยใจกลางเมืองที่ทอดตัวยาวจากตะวันออกไปตะวันตกโดยมีความยาว 1,400 เมตร สวนโอโดริเป็นที่รู้จักในฐานะสวนสาธารณะแต่ที่จริงแล้วเป็นถนนโดยในปีค.ศ.1871 (ปีเมจิที่ 4) และยังเป็นที่จัดงานเทศกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโดอีกด้วย
สามารถที่จะสนุกสนานเพลิดเพลินได้ตลอดทุกฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลดอกไลแล็ค ฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟสซึ่งรวบรวมเอาอาหารของฮอกไกโดมาไว้ และในฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซึ่งพัฒนามาเป็นเทศกาลระดับโลก
จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งที่มิตซุย เอาท์เล็ต (MITSUI OUTLET) ศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยแหล่งรวมของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกประกอบด้วยแบรนด์ดังถึง 128 แบรนด์ อาทิเช่น Coach, Armani, Ralph Lauren, Seigo เพียบพร้อมด้วยสินค้าสำหรับทุกคนตั้งแต่สินค้าแฟชั่นหญิงชายและเด็ก จนถึงอุปกรณ์กีฬาและสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ภายในห้าง ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่จุได้ 650 ที่นั่ง และมี Hokkaido Roko Farm Bridge ซี่งเป็นพื้นที่ที่มีสินค้าท้องถิ่นและสินค้าจากฟาร์มสดมาขายอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! บริการท่านด้วยเมนู บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ 3 ชนิด (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
ที่พัก CHITOSE AREA HOTEL ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day5 : สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10.00 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG671 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง 50 นาที)
15.00 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ