สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ตุรกี
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – อิสตันบูล – เมืองชานัคคาเล่ |
วันที่ 2 | ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล – เมืองคูซาดาซี – เมืองโบราณเอฟฟิซุส |
วันที่ 3 | เมืองปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส – โรงงานสิ่งทอ |
วันที่ 4 | เมืองคอนย่า – กองคาราวานในสมัยโบราณ – เมืองคัปปาโดเกีย |
วันที่ 5 | นครใต้ดิน – โรงงานพรม / เซรามิค / เครื่องประดับ – หุบเขานกพิราบ – หุบเขาอุซิซาร์ – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอราเม่ |
วันที่ 6 | ทะเลสาบเกลือ – เมืองอิสตันบูล – ทักซิมสแควร์ |
วันที่ 7 | สุเหร่าสีน้ำเงิน – ฮิปโปโดรม – วิหารฮาเจีย โซเฟีย – สไปซ์บาซาร์ – ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – หอคอยกาลาตา – กาลาตาพอร์ต |
วันที่ 8 | โรงงานผลิตเครื่องหนัง – สนามบินอิสตันบูล |
วันที่ 9 | กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) |
อัตราการให้บริการ | |||||
กำหนดการเดินทาง | รายละเอียดไฟล์ทบิน และ เวลาบิน |
ผู้ใหญ่ ห้องละ 2-3 ท่าน ท่านละ |
1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่ เด็กมีเตียง (ไม่เกิน 12 ปี) ท่านละ |
1 เด็ก 2 ผู้ใหญ่ เด็กไม่มีเตียง (ไม่เกิน 12 ปี ท่านละ |
พักเดี่ยว เพิ่มท่านละ |
18 – 26 มกราคม 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
29 ม.ค. – 06 ก.พ. 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
12 – 20 กุมภาพันธ์ 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
25 ก.พ. – 05 มี.ค. 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
12 – 20 มีนาคม 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
26 มี.ค. – 03 เม.ย. 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
31 มี.ค. – 08 เม.ย. 68 |
TK059 BKK-IST TK058 IST-BKK |
40,999 | 40,999 | 39,999 | 8,500 |
ในกรณีที่ JOIN LAND (ไม่ใช้ตั๋วเครื่องบิน) ลดราคาทัวร์ออกไปท่านละ 18,000 บาท |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ตุรกี
DAY 1 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – อิสตันบูล – เมืองชานัคคาเล่ ( / /D)
02.30 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบิน TURKISH AIRLINE โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
06.15 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 059 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง **
13.30 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ อิสตันบูล เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถโค้ชปรับอากาศ นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (CANAKKALE) ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (BOGAZI) หรือ เฮลเลสปอนต์ (HELLESPONT) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตร เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ ใกล้กับ แหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลเอเจียนซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่าตัดกับทะเลอีเจียน เป็นที่ตั้งของเมืองทรอย
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ PARION HOTEL, CANAKKALE โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
02.30 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบิน TURKISH AIRLINE โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
06.15 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 059 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง **
13.30 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ อิสตันบูล เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถโค้ชปรับอากาศ นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (CANAKKALE) ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (BOGAZI) หรือ เฮลเลสปอนต์ (HELLESPONT) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตร เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ ใกล้กับ แหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลเอเจียนซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่าตัดกับทะเลอีเจียน เป็นที่ตั้งของเมืองทรอย
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ PARION HOTEL, CANAKKALE โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 2 ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล – เมืองคูซาดาซี – เมืองโบราณเอฟฟิซุส (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมและถ่ายภาพ ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล (TROJAN STATUE/HOLLYWOOD HORSE) เป็นม้าไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดจากมหากาพย์ภาพยนตร์ฮอลิวูดเรื่อง ทรอย (Troy) ในปี 2004 มีแบรด พิตต์ แสดงชื่อดังระดับโลกเป็นนักแสดงนำ ทางทีมงานได้จำลองม้าไม้ขนาดใหญ่สีดำ เพื่อใช้ดำเนินเรื่องและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเรื่องทรอย หลังจากนั้นทางทีมงานจึงมอบม้าไม้จำลองตัวนี้ให้กับทางการตุรกี เพื่อเป็นเกียรติและสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองชานัคคาเล่อีกด้วย
นำท่าน เดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (KUSADASI) เมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (LONIA) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ หอสมุดเซลซุส (LIBRARY OF CELSUS) มีความสวยงามเป็นเลิศและมีขนาดใหญ่มาก สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี657-660และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ CHARISMA DE LUXE HOTEL , KUSADASI โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมและถ่ายภาพ ม้าไม้จำลองเมืองทรอยริมทะเล (TROJAN STATUE/HOLLYWOOD HORSE) เป็นม้าไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดจากมหากาพย์ภาพยนตร์ฮอลิวูดเรื่อง ทรอย (Troy) ในปี 2004 มีแบรด พิตต์ แสดงชื่อดังระดับโลกเป็นนักแสดงนำ ทางทีมงานได้จำลองม้าไม้ขนาดใหญ่สีดำ เพื่อใช้ดำเนินเรื่องและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเรื่องทรอย หลังจากนั้นทางทีมงานจึงมอบม้าไม้จำลองตัวนี้ให้กับทางการตุรกี เพื่อเป็นเกียรติและสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองชานัคคาเล่อีกด้วย
นำท่าน เดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (KUSADASI) เมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (LONIA) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ หอสมุดเซลซุส (LIBRARY OF CELSUS) มีความสวยงามเป็นเลิศและมีขนาดใหญ่มาก สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี657-660และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ CHARISMA DE LUXE HOTEL , KUSADASI โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 3 เมืองปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส – โรงงานสิ่งทอ (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกขึ้นกึ่งสถาปัตยกรรม
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก บริเวณเดียวกันจะเป็น เมืองโบราณเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น
แวะชมโรงงานสิ่งทอ ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองตุรกี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีจากโรงานผู้ผลิต
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ ADEMPIRA THERMAL HOTEL , PAMUKKALE โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกขึ้นกึ่งสถาปัตยกรรม
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก บริเวณเดียวกันจะเป็น เมืองโบราณเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น
แวะชมโรงงานสิ่งทอ ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมืองตุรกี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีจากโรงานผู้ผลิต
ค่ำ บริการอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ ADEMPIRA THERMAL HOTEL , PAMUKKALE โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 4 เมืองคอนย่า – กองคาราวานในสมัยโบราณ – เมืองคัปปาโดเกีย (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 400 กิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ (CARAVANSARAI) เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำ กับ ภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกัน กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (FAIRY CHIMNEY) โดยชื่อ คัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ อีกทั้ง ยังมีเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองคัปปาโดเกีย ถือเป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่เมืองใต้ดินแห่งนี้ขุดลึกลงไปถึง 10 ชั้น ประมาณ 90 เมตร และภายในเมืองใต้ดินยังแบ่งซอยเป็นห้องย่อย เฉพาะที่เมืองคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินมากถึง 15 แห่งและถ้ารวมทั้งเมืองอื่นๆ ด้วยก็เกือบๆ 200 แห่งเลยทีเดียว และยังมีการขุดเชื่อมกันระหว่างแต่ละเมืองอีกด้วย ซึ่งภายในเมืองใต้ดินมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน เลยทีเดียว ด้วยความอัศจรรย์ใต้พิภพแห่งนี้ ทางองค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเจีย เป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ SUHAN HOTEL , CAPPADOCIA โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 400 กิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ (CARAVANSARAI) เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำ กับ ภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกัน กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (FAIRY CHIMNEY) โดยชื่อ คัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ อีกทั้ง ยังมีเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองคัปปาโดเกีย ถือเป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่เมืองใต้ดินแห่งนี้ขุดลึกลงไปถึง 10 ชั้น ประมาณ 90 เมตร และภายในเมืองใต้ดินยังแบ่งซอยเป็นห้องย่อย เฉพาะที่เมืองคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินมากถึง 15 แห่งและถ้ารวมทั้งเมืองอื่นๆ ด้วยก็เกือบๆ 200 แห่งเลยทีเดียว และยังมีการขุดเชื่อมกันระหว่างแต่ละเมืองอีกด้วย ซึ่งภายในเมืองใต้ดินมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน เลยทีเดียว ด้วยความอัศจรรย์ใต้พิภพแห่งนี้ ทางองค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเจีย เป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ SUHAN HOTEL , CAPPADOCIA โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 5 นครใต้ดิน – โรงงานพรม / เซรามิค / เครื่องประดับ – หุบเขานกพิราบ – หุบเขาอุซิซาร์ – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอราเม่ (B/L/D)
** แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ **
1. สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมจะต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูนอยู่ที่ท่านละ ประมาณ 280 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
2. รถจี๊ปทัวร์ (Jeep Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 120 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
3. รถคลาสสิคทัวร์ (Classic Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถคลาสสิค ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถอยู่ที่ ท่านละ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้องๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงอาจค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานทอพรม (CARPET FACTORY) , โรงงานเซรามิค (CERAMIC FACTORY) และ โรงงานเครื่องประดับ (JEWELLY FACTORY) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) เป็นหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ เนื่องจากสมัยก่อนชาวเมืองใช้นกพิราบมีหน้าที่เป็นผู้ส่งสารสำคัญในแถบละแวกนั้น และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก หุบเขาอุชิซาร์ (UCHISAR VALLEY) ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอราเม่ (OPEN AIR MUSEUM OF GOREME) ซึ่งองค์กรยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ SUHAN HOTEL , CAPPADOCIA โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
** แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ **
1. สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมจะต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูนอยู่ที่ท่านละ ประมาณ 280 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
2. รถจี๊ปทัวร์ (Jeep Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 120 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
3. รถคลาสสิคทัวร์ (Classic Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถคลาสสิค ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถอยู่ที่ ท่านละ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้องๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงอาจค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานทอพรม (CARPET FACTORY) , โรงงานเซรามิค (CERAMIC FACTORY) และ โรงงานเครื่องประดับ (JEWELLY FACTORY) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) เป็นหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ เนื่องจากสมัยก่อนชาวเมืองใช้นกพิราบมีหน้าที่เป็นผู้ส่งสารสำคัญในแถบละแวกนั้น และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก หุบเขาอุชิซาร์ (UCHISAR VALLEY) ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอราเม่ (OPEN AIR MUSEUM OF GOREME) ซึ่งองค์กรยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ SUHAN HOTEL , CAPPADOCIA โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 6 ทะเลสาบเกลือ – เมืองอิสตันบูล – ทักซิมสแควร์ (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเกลือ (SALT LAKE) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตุรกี ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีเปอร์เซ็นต์ของเกลือสูง หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง STAR WAR อีกด้วย
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศตุรเคีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้เมืองอิสตันบูลมีความเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ
นำท่านสู่จัตุรัส ทักซิมสแควร์ (TAKSIM SQUARE) ถนนสายนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสตันบูล มีร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ของที่ระลึก, ร้านอาหารพื้นเมือง และยังมีแทรมป์โบราณ (TRAM) เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวเมืองอิสตันบูล
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ GONEN HOTEL , ISTANBUL โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเกลือ (SALT LAKE) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตุรกี ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีเปอร์เซ็นต์ของเกลือสูง หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง STAR WAR อีกด้วย
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศตุรเคีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้เมืองอิสตันบูลมีความเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ
นำท่านสู่จัตุรัส ทักซิมสแควร์ (TAKSIM SQUARE) ถนนสายนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสตันบูล มีร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ของที่ระลึก, ร้านอาหารพื้นเมือง และยังมีแทรมป์โบราณ (TRAM) เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวเมืองอิสตันบูล
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ GONEN HOTEL , ISTANBUL โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 7 สุเหร่าสีน้ำเงิน – ฮิปโปโดรม – วิหารฮาเจีย โซเฟีย – สไปซ์บาซาร์ – ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – หอคอยกาลาตา – กาลาตาพอร์ต(B/L/–)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
** คำแนะนำ โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า **
การเข้าชมสุเหร่า จำเป็นต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม
สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือชื่อเดิมคือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (SULTAN AHMED MOSQUE) การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สุเหร่านี้สร้างในปี 2152 เสร็จปี 2159 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผุ้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลีเรีย (KULLIYE)นำท่านเดินทางสู่ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (CHARIOT RACING) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (CENTRAL MOSCOW HIPPODROME) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต หรือ อิสตันบลูในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ในสมัยโบราณสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203-330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (COLUMN OF CONSTANTINE VII) สร้างเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ แต่บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมือง เดลฟี (DELPHI) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อิยิปต์ หรือเสาโอเบลิส (OBELISK OF THUTMOSE) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ OBELISKOS หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาโอเบลิสก์เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆเสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิค บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์
นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ วิหารฮาเจีย โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้
เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้าง ที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น (ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางโบราณ)
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ สไปซ์บาซาร์ (SPICE BAZAAR) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือ
เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็น
ส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวาน
ของตุรกี, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (TURKISH DELIGHT SHOP) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิล
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (BOSPHORUS CRUISE) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) กับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้างเริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเซีย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรเคียอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย
นำท่านถ่ายภาพด้านนอกกับ หอคอยกาลาตา (GALATA TOWER) หอคอยหินสไตล์โรมัน แบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ตัวตึกประกอบด้วย 9 ชั้น มีรูปทรงกระบอก และมีหลังคาเป็นทรงกรวย อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1348 เพื่อไว้เป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันข้าศึกจากทางทะเลปัจจุบันชั้นบนเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพของเมือง จากนั้นเดินทางสู่ กาลาตาพอร์ต (GALATAPORT) ศูนย์การค้า, ศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมืองอิสตันบูล ทั้งนี้ยังเป็นเป็นท่าเรือสำราญระดับโลกและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการล่องเรือชั้นนำในเส้นทางเดินเรือยุโรปอีกด้วย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ สินค้า D.I.Y สินค้าท้องถิ่น จนถึงร้านค้าแบรนเนมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ หรือให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศมุมถ่ายภาพสวยๆต่างๆ ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
พักที่ GONEN HOTEL , ISTANBUL โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
** คำแนะนำ โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า **
การเข้าชมสุเหร่า จำเป็นต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม
สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือชื่อเดิมคือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (SULTAN AHMED MOSQUE) การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สุเหร่านี้สร้างในปี 2152 เสร็จปี 2159 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผุ้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลีเรีย (KULLIYE)นำท่านเดินทางสู่ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (CHARIOT RACING) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (CENTRAL MOSCOW HIPPODROME) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต หรือ อิสตันบลูในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ในสมัยโบราณสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203-330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (COLUMN OF CONSTANTINE VII) สร้างเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ แต่บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมือง เดลฟี (DELPHI) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อิยิปต์ หรือเสาโอเบลิส (OBELISK OF THUTMOSE) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ OBELISKOS หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาโอเบลิสก์เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆเสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิค บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์
นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ วิหารฮาเจีย โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้
เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้าง ที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น (ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางโบราณ)
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ สไปซ์บาซาร์ (SPICE BAZAAR) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือ
เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็น
ส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวาน
ของตุรกี, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (TURKISH DELIGHT SHOP) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วพิสตาชิโอ และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิล
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (BOSPHORUS CRUISE) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) กับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้างเริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเซีย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรเคียอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย
นำท่านถ่ายภาพด้านนอกกับ หอคอยกาลาตา (GALATA TOWER) หอคอยหินสไตล์โรมัน แบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ตัวตึกประกอบด้วย 9 ชั้น มีรูปทรงกระบอก และมีหลังคาเป็นทรงกรวย อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1348 เพื่อไว้เป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันข้าศึกจากทางทะเลปัจจุบันชั้นบนเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพของเมือง จากนั้นเดินทางสู่ กาลาตาพอร์ต (GALATAPORT) ศูนย์การค้า, ศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมืองอิสตันบูล ทั้งนี้ยังเป็นเป็นท่าเรือสำราญระดับโลกและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการล่องเรือชั้นนำในเส้นทางเดินเรือยุโรปอีกด้วย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ สินค้า D.I.Y สินค้าท้องถิ่น จนถึงร้านค้าแบรนเนมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ หรือให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศมุมถ่ายภาพสวยๆต่างๆ ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
พักที่ GONEN HOTEL , ISTANBUL โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่าตามมาตรฐานตุรกี
DAY 8 โรงงานผลิตเครื่องหนัง – สนามบินอิสตันบูล (B/–/ )
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง (LEATHER FACTORY) ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น VERSACE , PRADA , MICHAEL KORS อีกด้วย
เที่ยง อิสระอาหารกลางเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
15.30 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 058 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 10 ชั่วโมง **
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง (LEATHER FACTORY) ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น VERSACE , PRADA , MICHAEL KORS อีกด้วย
เที่ยง อิสระอาหารกลางเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
15.30 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK 058 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 10 ชั่วโมง **
DAY 9 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
04.40 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
04.40 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
เงื่อนไขทัวร์ตุรกี
อัตราค่าบริการนี้ รวม
- ค่าบัตรโดยสารโดยเครื่องบิน (ตั๋ว) ไป และ กลับพร้อมคณะ ชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS) รวมถึงค่าภาษี สนามบิน และค่าภาษีน้ำมันทุกแห่ง กรณีต้องการอัพเกรด UPGRADE หรือ เปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร ไม่ว่าเที่ยวใด เที่ยวหนึ่ง กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างอิงค่าใช้จ่ายการจองทัวร์แบบ ไม่ใช้ตั๋วเครื่องบิน ตามที่ ตารางอัตราค่าบริการระบุ
- ค่าธรรมเนียมการโหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน อนุญาตให้โหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน โดย มีน้ำหนักไม่เกิน 30 ก.ก. และ ถือขึ้นเครื่องบินได้น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. (ไม่จำกัดจำนวนชิ้น แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม) ต่อท่าน (ตามเงื่อนไขของสายการบิน)
- ค่ารถโค้ชปรับอากาศตลอดเส้นทางตามรายการระบุ
- ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตรฐานตามรายการที่ระบุ (พัก 2-3 ท่าน ต่อ ห้อง) ในกรณีเป็นช่วงเทศกาล มีงานเทรดแฟร์ การแข่งขันกีฬา หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้โรงแรมตามรายการที่ระบุเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พัก ไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทน อ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ กรณีไม่รวมจะชี้แจงแต่ละสถานที่ในโปรแกรม
- ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
- ค่ามัคคุเทศก์ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ วงเงินประกันสูงสุดท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไข ตามกรมธรรม์)
- รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษี ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะค่าบริการ)
อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์ใน ห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ
- ค่าทิปพนักงานขับรถ หัวหน้าทัวร์ และ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ตามธรรมเนียม 80 USD ต่อ ทริป ต่อ ลูกค้า ผู้เดินทาง 1 ท่าน รวมไปถึงเด็ก ยกเว้นเด็กอายุไม่ถึง 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (INFANT) ทั้งนี้ท่านสามารถให้มากกว่านี้ได้ตาม ความเหมาะสมและความพึงพอใจของท่าน โดยส่วนนี้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บก่อนเดินทางทุกท่าน ที่สนามบิน ในวันเช็คอิน
- ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาด มาตรฐาน
- ค่าธรรมเนียมการจองที่นั่งบนเครื่องบินตามความต้องการเป็นกรณีพิเศษหากสามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการ บิน และ รุ่นของเครื่องบินแต่ละไฟล์ทที่ใช้บิน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้อยู่ที่สายการบินเป็นผู้กำหนด
- ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว